ภูเขาไฟฟูจิ ( Fuji )
ภูเขาไฟฟูจินี้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นเรียกภูเขาไฟฟูจิว่า ฟูจิซัง (Fujisan– 富士山) มีความสูงราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต)
จากวัดเส้นรอบวงของภูเขาไฟฟูจิวัดเส้นรอบวงได้ประมาณ 100 กิโลเมตร (โอ้ใหญ่มั่ก ๆ) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซึโอะกะ
และจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดโตเกียว ภูเขาไฟฟูจิเคยระเบิดมาแล้วซึ่งครั้งหลังสุดที่ระเบิดคือเมื่อปี
พ. ศ. 2250 (ค.ศ. 1707) ซึ่งตรงกับยุดเอโดะ
เชื่อว่ามีผู้ปีนเขาฟูจี ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1206 โดยนักบวชท่านหนึ่ง
และในช่วงระหว่างนั้นจนถึงยุคเมจิ
ภูเขาฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งห้ามผู้หญิงขึ้นเขา
โดยในปัจจุบันภูเขาฟูจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
ภูเขาฟูจิได้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของญี่ปุ่น
ซึ่งจะเห็นได้จากในงานเขียนหรือภาพวาดต่างๆ โดยเฉพาะภาพวาดของ โฮะกุไซ
ที่มีให้เห็นในวรรณกรรมญี่ปุ่นและกาพย์กลอนที่สำคัญมากมาย ภูเขาฟูจิยังเป็นฐานทัพของซามูไรต่างๆมากมายจากยุคอดีต
เป็นที่ฝึกฝน ซึ่งในปัจจุบัน
ฐานทัพหนึ่งของกองทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณตีนเขาฟูจิ
บริเวณโดยรอบภูเขาไฟฟูจิมีสวนสาธารณะ มีสถานที่ว่ายน้ำ อาบน้ำ
มีทะเลสาบกว้างใหญ่ และทัศนียภาพที่งดงาม ชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องดินทางมาเที่ยวที่
ภูเขาไฟนี้อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต
เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนยอดเขา
การที่ปีนภูเขาไฟฟูจิในตอนกลางคืนเพราะเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วเราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี
ซึ่งสวยงามมาก ส่วนมากแล้วชาวญี่ปุ่นจะใช้เวลาประมาณ 2 วันในการปีนภูเขาไฟฟูจิ
ซึ่งระหว่างทางก็จะมีที่พักให้สำหรับนักปีนเขาอยู่ตลอดทาง
ข้างบนยอดเขาฟูจินั้นยังมีโทรศัพท์และตู้ไปรษณีย์ สำหรับผู้ที่สนใจจะปีน
ก็สามารถซื้อไม้ที่เชิงเขา เพื่อที่จะเอาไว้ ทำเครื่องหมายในแต่ละจุดที่เดินผ่าน
และรอบๆฟูจิซังจะมีทะเลสาบอยู่ห้าแห่ง ทะเลสาบที่ค่อนข้างมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันมากที่สุดก็คือทะเลสาบที่ชื่อว่าฮาโกเนะ
ซึ่งบริเวณนั้นจะมีจุดท่องเที่ยวหลายๆแห่งให้เราแวะเข้าไปเที่ยวชม
และมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ทำนอกเหนือไปจากการมองเห็นฟูจิซังแบบใกล้ๆเต็มๆตา
อย่างเช่นการนั่งเรือข้ามทะเลสาบ นั่งโรปเวย์ข้ามภูเขา นั่งรถราง มีพิพิธภัณฑ์
มีเหมืองแร่ และน้ำพุร้อนที่สามารถต้มไข่ให้สุกได้
การเดินทางจากโตเกียวไปยังฮาโกเนะก็ไม่ยากเลย มีทั้งรถไฟ รถบัส
แต่ทางที่สะดวกก็คงจะเป็นรถไฟซึ่งมีตลอดเวลา
แหล่งอ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น