1. อุโมงค์วิสเทอเรีย (Wisteria Tunnel)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้นานาพันธุ์
จะต้องหลงรักอุโมงค์วิสเทอเรียอย่างแน่นอน โดยอุโมงค์ดอกไม้แห่งนี้
ตั้งอยู่ที่สวนคาวาชิ ฟูจิ ในเมืองคิตะกีวชู ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งภายในอุโมงค์จะมีดอกไม้สีสันสวยงามต่าง ๆ ห้อยอยู่ด้านบน เรียงกันเป็นแถว ๆ
ยาวไปตามเส้นทาง ที่เมื่อเดินเข้าไปแล้วจะรู้สึกเหมือนอยู่ในสรวงสวรรค์แมกไม้เลยทีเดียว
2. ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre)
ชิงเกว แตร์เร คือ
ส่วนประกอบของหมู่บ้านหลากสีทั้ง 5 แห่ง ที่อยู่ติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย
ในประเทศอิตาลี ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ที่ต้องการมาชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกรามบ้านช่องที่ถูกฉาบไว้ด้วย
สีสันสะดุดตามากมาย ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสที่อยู่ด้านหลัง เรียกได้ว่าสถานที่ ๆ
มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้
3. โรงแรมเมจิค เมาน์เท่น (Magic Mountain hotel)
เมื่อดูภายนอกของโรงแรมแห่งนี้
อาจดูเหมือนเป็นสถานที่ใช้สำหรับถ่ายหนัง เพราะโรงแรมเมจิค เมาน์เท่น
มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ในป่าเขียวชะอุ่ม
ซึ่งมีน้ำตกพวยพุ่งไหลงลงมาจากด้านบนภูเขาอีกด้วย
จนแทบไม่น่าเชื่อว่ามันคือที่พักสำหรับคน โดยโรงแรมภูเขาสุดหรูแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวภายในอุทยานฮุยโล
ฮุยโล (Huilo Huilo) บริเวณแคว้นลอส ริออส ประเทศชิลี
4. ครุ๊ก ฟอเรสท์ (Crooked Forest)
ครุ๊ก ฟอเรสท์
เป็นสถานที่ตามธรรมชาติซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศโปแลนด์ โดยสิ่งที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความแปลกพิสดารไม่เหมือนใครตรงที่
ต้นสนจำนวนมากประมาณ 400 ต้น ที่อยู่ในผืนที่แห่งนี้
มีลักษณะโค้งงอบริเวณโคนต้นผิดจากต้นไม้ทั่วไป
ซึ่งประวัติของพวกมันทราบแต่เพียงว่ามีคนมาปลูกเอาไว้ในปี 1939
แต่ก็ไม่มีใครทราบทำไมมันถึงมีรูปร่างเช่นนี้
5. อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel Of Love)
อุโมงค์ต้นไม้ขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวแห่งนี้
ตั้งอยู่บนรางรถไฟเก่าแห่งหนึ่งในเมืองคลีเวน ประเทศยูเครน
ซึ่งสาเหตุที่ได้ชื่อว่าเป็น "อุโมงค์แห่งความรัก"
เกิดจากเหล่าบรรดาคู่รักนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ชอบมาเดินเที่ยวเล่นกันภายในอุโมงค์แห่งนี้อยู่เสมอ
6. บ่อน้ำพุร้อน บลู ลากูน (Blue Lagoon Hot Springs)
บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์
ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
โดยบรรยากาศของสถานที่จะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว ที่แม้อากาศจะหนาวเหน็บขนาดไหน
แต่อุณหภูมิของน้ำในบ่อก็ยังคงร้อนอยู่เสมอ
เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สร้างความอบอุ่นในวันที่หิมะมาเยือนได้อย่างสบาย ๆ
7. ไอซ์ แคนยอน (Ice Canyon)
หุบเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์
เกิดขึ้นจากการละลายตัวของก้อนน้ำแข็งจำนวนมาก โดยมีความลึกถึง 150 ฟุต
ในกรีนแลนด์ (Greenland) ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศเดนมาร์ก
แม้ดูเผิน ๆ ดินแดนแห่งนี้อาจเป็นเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่า
ที่เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งสีขาวทั่วไป
แต่บริเวณช่องว่างในหุบเขาที่มองลงไปเห็นธารน้ำสีฟ้าใส
ก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงเสน่ห์หุบเขาน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่แห่งนี้อย่างง่ายดาย
8. บอล พีระมิด (Ball Pyramid)
บอล พีระมิด
คือ ภูเขาหินริมทะเลสูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน โดยมีความสูงอยู่ที่ 562 เมตร
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะลอร์ด ฮาว ในมหาสมุทรแปซิฟิค
ซึ่งความจริงภูเขาหินแห่งนี้ เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของภูเขาไฟรูปโล่ เมื่อประมาณ 7
ล้านปีที่แล้ว
9. เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ (The Great Barrier Reef)
เกรท
แบร์ริเออร์ รีฟ เป็นแนวปะการังนอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ตั้งอยู่ในทะเลคอรัล บริเวณนอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
โดยสถานที่แห่งนี้ยังได้รับความนิยมมากมายจากนักดำน้ำและนักท่องเที่ยวทั่ว โลก
ที่ต่างพากันยกนิ้วให้กับความสวยสดงดงามของแนวปะการังแห่งนี้
10. อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่
(Plitvice Lakes National Park)
อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่
ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ซึ่งเป็นอุทยานเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย
โดยภายในอุทยานยังแวดล้อมไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ และมีธารน้ำตกมากมายหลายชั้น
ที่สามารถสะกดนักท่องเที่ยวให้ตราตรึงกับบรรยากาศได้อย่างอยู่หมัด
แหล่งอ้างอิง
http://blog.eduzones.com/studyabroad/91958
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น