วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภูเขาไฟฟูจิ ( Fuji )



ภูเขาไฟฟูจิ ( Fuji )

        ภูเขาไฟฟูจินี้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเรียกภูเขาไฟฟูจิว่า ฟูจิซัง (Fujisan– 富士山) มีความสูงราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) จากวัดเส้นรอบวงของภูเขาไฟฟูจิวัดเส้นรอบวงได้ประมาณ 100 กิโลเมตร (โอ้ใหญ่มั่ก ๆ) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซึโอะกะ และจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดโตเกียว ภูเขาไฟฟูจิเคยระเบิดมาแล้วซึ่งครั้งหลังสุดที่ระเบิดคือเมื่อปี พ. ศ. 2250 (ค.ศ. 1707) ซึ่งตรงกับยุดเอโดะ

ภูเขาไฟฟูจิ ( Fuji )  


          เชื่อว่ามีผู้ปีนเขาฟูจี ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1206 โดยนักบวชท่านหนึ่ง และในช่วงระหว่างนั้นจนถึงยุคเมจิ ภูเขาฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งห้ามผู้หญิงขึ้นเขา โดยในปัจจุบันภูเขาฟูจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ภูเขาฟูจิได้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นได้จากในงานเขียนหรือภาพวาดต่างๆ โดยเฉพาะภาพวาดของ โฮะกุไซ ที่มีให้เห็นในวรรณกรรมญี่ปุ่นและกาพย์กลอนที่สำคัญมากมาย ภูเขาฟูจิยังเป็นฐานทัพของซามูไรต่างๆมากมายจากยุคอดีต เป็นที่ฝึกฝน ซึ่งในปัจจุบัน ฐานทัพหนึ่งของกองทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณตีนเขาฟูจิ  
 นักปีนเขาที่มาท้าทายภูเขาไฟฟูจิ 


          บริเวณโดยรอบภูเขาไฟฟูจิมีสวนสาธารณะ มีสถานที่ว่ายน้ำ อาบน้ำ มีทะเลสาบกว้างใหญ่ และทัศนียภาพที่งดงาม ชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องดินทางมาเที่ยวที่ ภูเขาไฟนี้อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนยอดเขา การที่ปีนภูเขาไฟฟูจิในตอนกลางคืนเพราะเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วเราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ซึ่งสวยงามมาก ส่วนมากแล้วชาวญี่ปุ่นจะใช้เวลาประมาณ 2 วันในการปีนภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งระหว่างทางก็จะมีที่พักให้สำหรับนักปีนเขาอยู่ตลอดทาง ข้างบนยอดเขาฟูจินั้นยังมีโทรศัพท์และตู้ไปรษณีย์ สำหรับผู้ที่สนใจจะปีน ก็สามารถซื้อไม้ที่เชิงเขา เพื่อที่จะเอาไว้ ทำเครื่องหมายในแต่ละจุดที่เดินผ่าน

                       จุดพักของนักท่องเที่ยว 


          และรอบๆฟูจิซังจะมีทะเลสาบอยู่ห้าแห่ง ทะเลสาบที่ค่อนข้างมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันมากที่สุดก็คือทะเลสาบที่ชื่อว่าฮาโกเนะ ซึ่งบริเวณนั้นจะมีจุดท่องเที่ยวหลายๆแห่งให้เราแวะเข้าไปเที่ยวชม และมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ทำนอกเหนือไปจากการมองเห็นฟูจิซังแบบใกล้ๆเต็มๆตา อย่างเช่นการนั่งเรือข้ามทะเลสาบ นั่งโรปเวย์ข้ามภูเขา นั่งรถราง มีพิพิธภัณฑ์ มีเหมืองแร่ และน้ำพุร้อนที่สามารถต้มไข่ให้สุกได้ การเดินทางจากโตเกียวไปยังฮาโกเนะก็ไม่ยากเลย มีทั้งรถไฟ รถบัส แต่ทางที่สะดวกก็คงจะเป็นรถไฟซึ่งมีตลอดเวลา        

แหล่งอ้างอิง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น